2.2泰国政府政策支持泰丝开拓国际市场。 泰丝在世界各国很受欢迎。每年

2.2 Tais สนับสนุนนโยบายของรัฐบาลไทยในการพัฒนาตลาดต่างประเทศ Tais
เป็นที่นิยมมากที่สุดในโลก มูลค่าการส่งออกประจำปีของ Tais 900-1000 billion สายพันธุ์ไทยของนักท่องเที่ยวในแต่ละปีกับมูลค่ายอดขายรวม 300 ล้านบาท ผ้าไหมไทยและผลิตภัณฑ์ไหมที่มีอยู่ในปัจจุบันตลาดส่งออกหลัก: สหรัฐอเมริกา, ญี่ปุ่น, อังกฤษ, ฯลฯ ตลาดใหม่ที่ออสเตรเลียอาเซียนและประเทศอื่น ๆ ในเอเชียและอื่น ๆ 2010, ผ้าไหมไทยและการส่งออกผลิตภัณฑ์ผ้าไหม 683,000,000 บาทซึ่งใกล้เคียงกับ $ 22,000,000 2010 ส่งออกของไทยไปยังสหรัฐฯ 207 ล้านบาทคิดเป็น $ 6,700,000 ที่สหรัฐอเมริกาเป็นผู้นำเข้าใหญ่ที่สุดในประเทศไทยของผลิตภัณฑ์ผ้าไหม,ไทยส่งออกไปญี่ปุ่น 90 ล้านบาทคิดเป็น $ 2,900,000 ตามมาด้วยสหราชอาณาจักรและนำเข้า 56,490,000 บาทคิดเป็น $ 1,800,000 นอกจากนี้ในประเทศอื่น ๆ และภูมิภาคเช่นฮ่องกง, ฝรั่งเศส, อิตาลี, สิงคโปร์, เบลเยียมและแคนาดา แต่ผ้าไหมไทยยังนำเข้าดังนั้นผ้าไหมไทยและผลิตภัณฑ์ไหมของเรามีพื้นที่ที่กว้างขึ้นสำหรับการพัฒนา Tais
ในพื้นที่การพัฒนาตลาดต่างประเทศส่วนใหญ่ของรัฐบาลไทยจำนวนมากมีความเชื่อมั่นในการไปสำรวจตลาดต่างประเทศที่จะให้เทสส์ชุดของการสนับสนุนนโยบายเช่น:
โครงการ otop ที่หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (เมืองของผลิตภัณฑ์) ,สนับสนุนการพัฒนาของแต่ละเมืองและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่เป็นเอกลักษณ์ • 2001 พ.ต.ท. ทักษิณชินวัตร (นายกรัฐมนตรีไทย) ตัดสินใจที่จะดำเนินการตามแผน otop ในการแก้ปัญหาของคนยากจนช่วยให้การจ้างงานไม่ดี รัฐบาลไทยผ่านทางการเงินนักวิชาการทางเทคนิคช่องทางการตลาดเพื่อสนับสนุนแผน ภูมิภาคต่างๆของประเทศไทยมีแผนจะเพิ่มการเข้าถึงโอกาสในการระดมทุนและภายในเวลาสองปีเพื่อให้ได้รับล้านล้านบาทในประเทศไทย ที่อยู่ในการสนับสนุนของนโยบายนี้, ขอนแก่นขอนแก่นเปิดตัว Tais ภายใต้แผนขั้นตอนแรกในการตลาดในประเทศการผลิต; ขั้นตอนที่สองใช้เส้นทางการส่งออกต่างประเทศ แผน otop ที่จะนำจำนวนมากของความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่างชาติ

2.2 นโยบายรัฐบาลไทยสนับสนุนเทสส์แห่งตลาดนานาชาติ
ผ้าไหมเป็นที่นิยมในประเทศทั่วโลก Tess มูลค่าการส่งออกของต้องไทย 900.1 ล้านล้านใช้ทุกปี ยอดขายรวมของนักท่องเที่ยวของล้านบาทต่อปี ผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหมเป็นส่วนใหญ่ในตลาดส่งออก: ประเทศสหรัฐ อเมริกา และญี่ปุ่น และสหราชอาณาจักร และตลาดใหม่ประเทศออสเตรเลีย อาเซียน และประเทศอื่น ๆ ในเอเชีย ใน 2010 ไทยส่งออกผ้าไหมและผลิตภัณฑ์ไหม 683 ล้านบาท เกี่ยวกับสหรัฐอเมริกา $ 22 ล้าน 2010 ไทยสหรัฐอเมริกาส่งออก 207 ล้านบาท เท่ากับเรา $ 6.7 ล้าน สหรัฐอเมริกาเป็นประเทศที่ใหญ่ที่สุดนำเข้าประเทศของผลิตภัณฑ์ผ้าไหมประเทศไทยส่งออกญี่ปุ่น 90 ล้านบาท หรือ 2.9 ล้านดอลลาร์ ตาม ด้วยสหราชอาณาจักร นำเข้า 56.49 ล้านบาทหรือ $ 1.8 ล้านบาท นอกจากนี้ ประเทศอื่น ๆ และภูมิภาคเช่นฮ่องกง ฝรั่งเศส อิตาลี สิงคโปร์ ประเทศเบลเยียม และประเทศแคนาดายังนำเข้าไทยซิลค์ ดังนั้นผ้าไหม และผลิตภัณฑ์ผ้าไหม และมีพื้นที่กว้างสำหรับการพัฒนา
Tess มีช่องกว้างพัฒนาในประเทศไทยที่เชื่อมั่นอย่างมากรัฐบาลการ พัฒนา Tess นโยบายการสนับสนุนจากตลาดต่างประเทศ เช่น
OTOP แผน คือ หนึ่งตำบลหนึ่งผลิตภัณฑ์ (การเมือง),สนับสนุนให้แต่ละเมืองพัฒนาและการพัฒนาผลิตภัณฑ์ที่โดดเด่น ในปีค.ศ. 2001, chinnawat ·ทักษิณ (ไทยนายกรัฐมนตรี) ได้แนะนำแผนงาน OTOP แก้ปัญหาของคนจน ช่วยงานหายาก รัฐบาลไทย ผ่านช่องทางของการสนับสนุนทางการเงิน วิชาการ เทคนิค และการตลาดแผนการ แผนการเพิ่มการเข้าไทยถึงทุนโอกาส ในภูมิภาคต่าง ๆ และภาย ในสองปีในประเทศไทยถึงหลายสิบล้านบาท จะสนับสนุนนี้นโยบาย ขอนแก่น ขอนแก่นนำ Tess ภายใต้หลักสูตร ระยะแรกในการผลิตภายในประเทศ โปรโมชั่น และระยะ II การเส้นทางออกต่างประเทศ แผนงาน OTOP มาดีความเชื่อมั่นการลงทุนต่างประเทศ

2.2 นโยบายของรัฐบาลไทยสนับสนุนการตลาดระหว่างประเทศการพัฒนาผ้าไหมอันเงียบสงบ
ผ้าไหมอันเงียบสงบที่เป็นที่นิยมอย่างมากในประเทศต่างๆ ทุกๆปีมูลค่าการส่งออกผ้าไหมอันเงียบสงบที่มี 900 - 100 , 000 ล้านบาทไทยทำให้นักท่องเที่ยวได้ทุกปีมูลค่าการขายที่ยอดรวมเป็น 300 , 000 ล้านบาทไทย bhats ตลาดส่งออกของ ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมและ ผลิตภัณฑ์ ไหมไทยในปัจจุบันมีสาเหตุหลักมาจากสหรัฐญี่ปุ่นและประเทศอังกฤษและประเทศอื่นๆตลาดใหม่ที่มีอื่นๆประเทศออสเตรเลียประเทศในกลุ่มอาเซียนเอเชีย. ในปี 2010 ประเทศไทย 683 ล้านบาท bhats เต้าเสียบปลั๊ก ผลิตภัณฑ์ ระบบผ้าไหมและ ผลิตภัณฑ์ ไหมไทยที่อาจจะปรับเปลี่ยนเป็น 22 ล้านดอลลาร์สรอ. ในปี 2010 ไทยส่งออก 207 ล้านบาทไทย bhats เพื่อเราจะแปลงเป็น 6.7 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นประเทศผู้นำเข้า ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมไทยมีขนาดใหญ่ที่สุดประเทศไทยส่งออกของญี่ปุ่น 90 ล้านไทย bhats จะแปลงเป็น 2.9 ล้านดอลลาร์สรอ.ถัดไปคือประเทศอังกฤษมูลค่าการนำเข้า 56.49 ล้านแปลง bhats ใน 1.8 ล้านดอลลาร์สรอ. ในการเพิ่มเขตพื้นที่และประเทศอื่นๆเช่นฮ่องกงสิงคโปร์ฝรั่งเศสอิตาลีเบลเยียม,แคนาดาและเป็นการนำเข้าผ้าไหมไทยยังดังนั้น ผลิตภัณฑ์ ผ้าไหมและ ผลิตภัณฑ์ ไหมไทยที่มีพื้นที่การพัฒนาอย่างแพร่หลาย
ผ้าไหมอันเงียบสงบมีการให้รัฐบาลไทยให้ความมั่นใจขนาดใหญ่เป็นอย่างมากในการพัฒนาพื้นที่โดยทั่วไปของตลาดต่างประเทศมากขึ้นเพื่อพัฒนาผ้าไหมอันเงียบสงบที่ตลาดต่างประเทศที่ให้การสนับสนุนการดำเนินนโยบายการยกตัวอย่างเช่น
แผนหนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ( OTOP คือหนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ( Product ในเมืองที่)ส่งเสริมให้เกิดการพัฒนาการเมืองและการพัฒนาแต่ละคนจะมีลักษณะของ ผลิตภัณฑ์ ในปี 2001 เขาเชื่อว่าชินวัตร(สมาชิกคนหนึ่งคนใดที่อยู่ในประเทศไทย)มีมติให้ใช้แผน( OTOP )ที่สามารถแก้ปัญหาของคนจนช่วยให้คนจนที่นำมาใช้ได้ รัฐบาลไทยที่ช่องด้านเทคนิคและการตลาดการศึกษาสนับสนุนแผนการนี้ผ่านกองทุน การวางแผนเพื่อเพิ่มพื้นที่ประเทศไทยต่างๆในการได้รับเงินกองทุนที่มีโอกาสและทำให้ประเทศไทยได้รับมากกว่าหนึ่งหมื่นหนึ่งร้อยล้าน bhats ไทย ภายใน สองปี พร้อมด้วยการสนับสนุนนโยบายนี้ฮ่องกง jingshi ครคำมีการส่งเสริมผ้าไหมอันเงียบสงบได้ ตามแผนนี้เวทีแรกที่ผลิตและส่งเสริมให้เกิด ภายใน ระยะที่สองโดยเป็นเส้นทางระหว่างประเทศที่ส่งออก แผนการหนึ่งตำบลหนึ่ง ผลิตภัณฑ์ ที่ลงทุนในการนำมาเป็นอย่างมากขนาดใหญ่ความมั่นใจในสินค้าต่างประเทศได้