หัวข้อเรื่องกล่าวถึงความเหงาความโดดเดี่ยวที่ใครๆมองไม่เห็น ของหญิงสาวที่มีความคิดถึงสามีที่ยังไม่กลับมาจากการรบ
อย่างแรกคือผู้แต่งได้บรรยายสภาพความเป็นอยู่ของหญิงสาวคนนี้ ว่าอยู่ในบ้านเช่นไร ถัดจากนั้นจึงเป็นการเขียนถึงนกนางแอ่นสองตัวที่บินมาเกาะที่ขื่อไม้ของบ้าน มันเป็นจุดเด่นด้านนึงของผู้เขียนที่พยายามบรรยายถึงนกเป็นคู่ เพื่อให้ผู้อ่านรู้สึกได้ว่า หญิงสาวผู้นี้จะรู้สึกอย่างไรเมื่อเห็นนกอยู่เป็นคู่ แม้แต่สัตว์เอง ยังมีชีวิตคู่ ไม่ต้องอยู่เดียวดาย แต่นี่เราเป็นมนุษย์แท้ๆ แต่ตอนนี้กลับมีชีวิตอยู่เดียวดายเพียงผู้เดียว
ในขณะเดียวกันด้านนอกหน้าต่างก็ได้ยินเสียงคนทุบเสื้อผ้าและใบไม้ก็ร่วงหล่นปลิดปลิวลงมา ทำให้อดคิดไม่ได้ว่าถึงเดือนเก้าฤดูใบไม้ร่วงแล้ว ดูจากบทกลอนประโยคนี้ บางทีผู้เขียนคงต้องการสื่อให้เห็นว่า ณ เวลานี้ สภาพแวดล้อมที่หญิงสาวได้ยินและได้เห็นนี้ มันคือสิ่งที่บ่งบอกได้ว่า เธอได้ยินและได้เห็นสภาพแวดล้อมเช่นนี้มาคนเดียวในทุกๆๆปี ทุกๆปีที่วนมาซ้ำครั้งแล้วครั้งเล่า นี่เป็นเวลานานสิบกว่าปีแล้วที่สามีไปรักษาการณ์อยู่ที่ชายแดน นับเป็นการสะท้อนความเจ็บปวดได้เป็นอย่างดีจากการทำสงครามในสมัยนั้น สงครามได้เปลี่ยนชีวิตที่สงบสุขของหญิงสาวผู้นี้ให้ต้องพลัดพรากจากสามีผู้เป็นที่รัก สงครามทำให้ชีวิตคู่ต้องพลัดพรากจากกัน โดยผู้เขียนสะท้อนให้เห็นถึงความโหดร้ายของการทำสงคราม แม้ว่ามันอาจจะหมายถึงการปกป้องแผ่นดิน แต่ในแง่ของครอบครัวแล้วมันเป็นความรู้สึกที่ยากจะอธิบาย เป็นเวลานับสิบปีที่ขาดการติดต่อกัน ไม่เคยได้ยินข่าวคราว ไม่รู้เป็นตายร้ายดีอย่างไร ในความเงียบ ในการรอคอย ในห้วงคำนึงนั้น คือความหวั่นเกรง หวาดกลัว กลัวการสูญเสียใครบางคนไป แต่ละคืนช่างผ่านไปอย่างเนิ่นนาน กว่าจะข่มตาให้นอนหลับได้มันช่างยากเย็น ดังคำทีเคยได้ยินว่า เมื่อหากคนเรามีความทุกข์กาลเวลาช่างผ่านไปอย่างเชื่องช้าเหลือเกิน นิยามนี้คือสิ่งที่ผู้เขียนสื่อออกมาให้ผู้อ่านรับรู้ผ่านหญิงสาวคนนี้
ส่วนบทกลอนท่อนสุดท้าย เป็นบทกลอนที่ข้าพเจ้าชอบมากเลย......................................ไม่มีใครจะเข้าใจความเหงาและความโดดเดี่ยวของเธอผู้นี้ได้อย่างลึกซึ้ง ยิ่งแสงของพระจันทร์ที่สาดส้องเจิดจ้าสว่างไสวเข้ามาผ่านมุ้งลวด กลับทำให้ความเหงาและความโดดเดี่ยวเพิ่มมากขึ้น จนนอนไม่หลับ ในท่อนนี้ผู้เขียนสื่อให้เห็นว่า ความรู้สึกเช่นนี้ ใครไม่ประสบกับตัวเองย่อมไม่อาจเข้าใจความรู้สึกนี้ไปได้ มีแต่ผู้ประสบเหตุการณ์พลัดพลากเช่นนี้ที่รู้สึกได้ว่ามันเต็มไปด้วยความทุกข์ทรมาน และโดดเดี่ยวมากมายเพียงใด
การแต่งกลอนของผู้เขียนคือการเล่าเรื่องผ่านบทกลอน ผู้อ่านสามารถมโนภาพและเกิดความรู้สึกตามไปได้ สามารถรับรู้ความรู้สึกเหงาและโดดเดี่ยวผ่านบทกลอนนี้ได้เป็นอย่างดี มีการใช้สัตว์เปรียบเทียบให้เห็นถึงความรู้สึกของหญิงสาว และยังสอดแทรกถึงการทำสงครามที่นำมาซึ่งความทุกข์ทรมาน โดยที่ผ็เขียนไม่ได้เจตนาว่าการทำสงคราโหดร้ายแบบตรงไปตรงมา แต่กลบเป็นการพูดทางอ้อมว่าสงครามได้ทำให้ชีวิตผู้คนเป็นเช่นไรบ้าง โดยถ่ายทอดเรื่องราวผ่านหญิงสาวผู้นี้