粹主义(Populism，可译为平民主义)是在19世纪的俄国兴起的一股

粹主义(Populism，可译为平民主义)是在19世纪的俄国兴起的一股社会思潮。民粹主义的基本理论包括：极端强调平民群众的价值和理想，把平民化和大众
化作为所有政治运动和政治制度合法性的最终来源；依靠平民大众对社会进行激进改革，并把普通群众当作政治改革的唯一决定性力量；通过强调诸如平民的统一、全民公决、人民的创制权等民粹主义价值，对平民大众从整体上实施有效的控制和操纵。
民粹主义萌芽于19世纪40—50年代的俄国。当时，沙皇俄国已经腐朽不堪，严重阻碍生产力发展和社会进步：而西欧资本主义在迅速发展的同时也暴露出很多内在矛盾。民粹派的思想先驱们就是在这种背景下开始寻找俄国的出路，提出了落后国家向社会主义过渡的问题。他们肯定平民大众的首创精神，具有积极的意义；但同时又把俄国存在的村社制度和农民理想化，遭到以列宁为代表的俄国社会民主党人的深刻批判。到19世纪末20世纪初，随着马克思主义在俄国的传播，民粹主义的思潮已经成为强弩之末。
民粹主义表面上以人民为核心，但实际上是最缺乏公民个人尊严与个人基本权
利的观念。民粹主义者崇拜“人民”，但他们崇拜的是作为一个抽象整体的“人民”，而对组成“人民”的一个个具体的“人”却持一种极为蔑视的态度。民粹主义者反对权威，但他们又容不得反对派，甚至容不得“旁观者”。俄国民粹派当年有句名言：“谁不和我们在一起，谁就是反对我们；谁反对我们，谁就是我们的敌人；而对敌人就应该用一切手段加以消灭。”

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ประชาธิปไตย (ประชานิยมสามารถแปลว่าประชานิยม) ในศตวรรษที่ 19 การเพิ่มขึ้นของหนึ่งของความคิดทางสังคมรัสเซีย ทฤษฎีพื้นฐานของประชานิยมรวมถึงให้ความสำคัญมากเกี่ยวกับค่านิยมและอุดมคติของมวลของพลเรือนประชาชนพลเรือนและประชาชนทั่วไปเป็น
จากการเคลื่อนไหวทางการเมืองทั้งหมดและแหล่งที่ดีที่สุดของความชอบธรรมของระบบการเมือง; พึ่งพาประชาชนพลเรือนในการปฏิรูปรากฐานทางสังคมและเพื่อให้คนธรรมดาเมื่อ เพื่อการปฏิรูปการเมืองแรงแตกหักเท่านั้นเช่นพลเรือนโดยเน้นความสามัคคีของการลงประชามติขวาของประชาชนความคิดริเริ่มและค่านิยมประชาธิปไตยอื่น ๆ กับประชาชนพลเรือนเป็นทั้งที่จะใช้การควบคุมที่มีประสิทธิภาพและการจัดการ
ประชานิยมตา 40-50 ปีของศตวรรษที่ 19 รัสเซีย ในขณะที่ซาร์แห่งรัสเซียได้รับการเน่าเสียอุปสรรคอย่างร้ายแรงต่อการพัฒนาของกองกำลังการผลิตและความก้าวหน้าทางสังคม: การพัฒนาอย่างรวดเร็วของระบบทุนนิยมในยุโรปตะวันตก แต่ยังเผชิญความขัดแย้งมากโดยธรรมชาติ ผู้บุกเบิกอุดมการณ์ประชาธิปไตยในบริบทนี้คือการเริ่มมองหาวิธีออกของรัสเซียที่ทำให้การเปลี่ยนไปใช้ระบบสังคมนิยมในประเทศที่ล้าหลังปัญหา แน่นอนพวกเขาบุกเบิกของประชากรพลเรือนมีความหมายบวกอีกครั้ง แต่มีระบบอีจิโดในรัสเซียและเกษตรกรอุดมคติของเลนินเป็นตัวแทนวิจารณ์ลึกซึ้งของสังคมรัสเซียพรรคประชาธิปัตย์ ต้นศตวรรษที่ 20 ถึงศตวรรษที่ 19,มีการแพร่กระจายของมาร์กซ์ในรัสเซียแนวโน้มประชาธิปไตยได้กลายเป็นแรงผลักดันการใช้จ่าย
พื้นผิวประชาธิปไตยให้กับประชาชนเป็นหลัก แต่ความจริงก็คือส่วนใหญ่ขาดสิทธิมนุษยชนขั้นพื้นฐานและศักดิ์ศรีความเป็นส่วนตัวของบุคคล
แนวคิดลี บูชาประชาธิปไตย "ประชาชน" แต่พวกเขาเคารพบูชาในฐานะที่เป็นนามธรรม "คน" ทั้งในขณะที่องค์ประกอบของ "ประชาชน" หนึ่ง "บุคคล" ที่เฉพาะเจาะจง แต่เอาเหยียดหยามมาก ประชานิยมกับอำนาจ แต่พวกเขาไม่สามารถทนต่อความขัดแย้งและแม้แต่ทน "บ้านใกล้เรือนเคียง." Populists รัสเซียได้มีคำพูดที่มีชื่อเสียง: "ใครไม่ได้อยู่กับเราที่ผิดเรา;ที่ต่อต้านเราที่เป็นศัตรูของเราในขณะที่ศัตรูโดยทุกวิถีทางที่พวกเขาควรจะตัดออก "

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

Populist (ประชานิยม สามารถแปลเป็น populist) แนวโน้มสังคมความคิดในการเพิ่มขึ้นของเราในศตวรรษที่ 19 รัสเซีย คนลัทธิประชานิยมของทฤษฎีพื้นฐานรวม: มากเน้นมวลชนพลเรือนค่าและประชาชนเหมาะ วางและมวล
เป็นการเคลื่อนไหวทางการเมืองและระบบการเมืองทั้งหมด ความชอบธรรมแหล่งในที่สุด อาศัยพลเรือนจำนวนมากในสังคมการปฏิรูปรุนแรง ทั่วไปวางมวลชนเป็นการปฏิรูปทางการเมืองของอำนาจที่เด็ดขาดเท่านั้น ผ่านเน้นเช่นพลเรือนของการลงประชามติรวม และสากล และคนสร้างขวา คนค่าลัทธิประชานิยม พลเรือนใหญ่จากประสิทธิภาพโดยรวมซางนำควบคุมและจัดการ
Populist งอกในศตวรรษ 19 ในระหว่างปีของรัสเซีย ในขณะนั้น รัสเซียแล้วเน่า กระทบผลผลิตเจริญเติบโตและความก้าวหน้าทางสังคมอย่างจริงจัง: ในการพัฒนาอย่างรวดเร็วของทุนนิยมในยุโรปตะวันตก แต่ยัง สัมผัสกันก็มากแต่กำเนิด ประชานิยมอุดมการณ์เป็นผู้บุกเบิกในบริบทนี้เริ่มมองสำหรับทางรัสเซีย ยกปัญหาของประเทศย้อนหลังการเปลี่ยนแปลงไปสู่สังคมนิยม ต้องมีความคิดริเริ่มของประชากรพลเรือน และเป็นสำคัญบวก แต่ในเวลาเดียวกันและชาวนา ระบบรัสเซียชุมชน idealized ถูกแสดง โดยเลนินของพรรคประชาธิปไตยสังคมรัสเซียประชาชนวิจารณ์อย่างลึกซึ้ง ปลายศตวรรษที่ 19 และศตวรรษที่ 20 ต้นมีการแพร่กระจายของลัทธิมากซ์ในรัสเซีย แนวโน้มความคิดประชานิยมได้กลายเป็น ตายสิ้นสุด
ประชานิยมบนใบ หน้าของบุคคลศูนย์กลาง แต่ ในความเป็นจริงก็ขาดศักดิ์ศรีส่วนบุคคลและสิทธิขั้นพื้นฐานของแต่ละแนวความคิดของประชาชน
หลี่ บูชาลัทธิประชานิยม "คน" แต่พวกเขาเป็นดวงเป็น "คน" "คน" บาง "คน" แบบฟอร์มทั้งหมดมีนามธรรมถือเป็นทัศนคติของดีดูถูก ประชานิยมกับอำนาจ แต่พวกเขาจะไม่ทนอีกฝ่ายค้าน ไม่อนุญาตแม้ "bystanders" Populist รัสเซียเมื่อมีการพูดที่มีชื่อเสียง: "ใครอยู่กับเรา ที่เรา ไม่ใครอยู่กับเรา และใครคือศัตรูของเราและศัตรูจะโดยทั้งหมดจะตัดออก ”

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ท้องถนนลงคะแนนเสียง(ท้องถนนลงคะแนนเสียง,สามารถแปลเป็นท้องถนนลงคะแนนเสียง)อยู่ในศตวรรษที่ 19 ในรัสเซียคลื่นของสังคมแนวโน้ม.ท้องถนนลงคะแนนเสียงที่มีพื้นฐานทางทฤษฎีรวมถึง:สุดยอดความตึงเครียดพลเรือนและมวลชนของคุณค่าและอุดมการณ์และการใช้ของพลเรือนและประชาชนทั่วไป)และของทางการเมืองการเคลื่อนไหวทางการเมืองและมีความชอบธรรมของที่ดีเยี่ยมแหล่ง;อาศัยคนธรรมดาสามัญในที่ชุมชนอย่างรุนแรงสำหรับการปฏิรูปและโดยทั่วไปเป็นการปฏิรูปทางการเมืองเท่านั้นที่มั่นใจมีผลใช้บังคับ;ที่พลเรือนเช่นที่แบบครบวงจร,การออกเสียงประชามติให้ประชาชนที่ผู้สร้าง,เช่นสิทธิที่จะท้องถนนลงคะแนนเสียงให้กับพลเรือนประชากรทั้งหมด,การควบคุมและการจัดการ.
ท้องถนนลงคะแนนเสียงระยะสั้นที่ขนอุยจากศตวรรษที่ 1940 - 50 s ในประเทศรัสเซีย ในช่วงเวลาที่รัสเซีย tsarist มีคราบไคลออกไปอย่างจริงจังและเป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาการที่มีผลใช้บังคับได้อย่างมี ประสิทธิภาพ และความก้าวหน้าของสังคมประเทศตะวันตกทุนนิยมที่ในการพัฒนาอย่างรวดเร็วและยังพบหมายเลขของความขัดแย้ง ท้องถนนลงคะแนนเสียงแก่ผู้บุกเบิกในบริบทนี้เริ่มมองหาสำหรับอนาคตของประเทศรัสเซียประเทศถอยหลังของการเปลี่ยนไปลัทธิสังคมนิยม แน่นอนว่าประชากรที่เป็นพลเรือนของตนของผู้ริเริ่มและจิตวิญญาณที่มีความหมายในเชิงบวกแต่ในขณะเดียวกันก็มีชาวรัสเซียของหมู่บ้านและระบบสังคมและชาวนา'ตามฝันต้องตกอยู่ในเลนิน demokraten สังคมชาวรัสเซียที่การวิจารณ์อย่างลึกซึ้ง ในช่วงศตวรรษที่ 19 และศตวรรษที่ 20 .เป็นแนวคิดลัทธิมาร์กซ์ในประเทศรัสเซียความคิดประชานิยมได้กลายเป็นการวิ่งออกมาจากพลังไอน้ำ
ท้องถนนลงคะแนนเสียงบนพื้นผิวที่ให้กับบุคคลที่เป็นแกนหลักแต่ในความเป็นจริงแล้วมันคือการขาดศักดิ์ศรี Civic ของแต่ละบุคคลและอยู่แบบเรียบง่ายแบบเฉพาะรายที่
ตามแนวความคิดนี้. ข้างต้นหากได้ทำการสักการะ"ผู้คนที่"และพวกเขาควรเคารพในบทบาทหน้าที่เป็นนามธรรมของ"ผู้คน"และ"ประชาชน"สำหรับ"ผู้คน"มีการดูถูกเหยียดหยามที่ดีเยี่ยม ที่ข้างต้นหากกับอำนาจแต่ไม่อนุญาตให้พรรคฝ่ายค้านและแม้แต่ไม่ได้ผู้ที่ คนชาติรัสเซียที่ถูกจัดว่ามีคำกล่าวที่รู้จักกันดี"เขาที่ไม่ได้อยู่กับเราเพราะเราเป็นช่วงเวลาที่ดีและผู้ที่มีต่อเรา.ซึ่งเป็นการกระทำที่ขัดต่อเราที่เป็นศัตรูของเราและศัตรูที่คือเราจะใช้วิธีการทั้งหมดเพื่อทำลาย "