从上高中起，我就觉得 “孤独” 是个浪漫而有神圣的字眼。那些死了还让人

从上高中起，我就觉得 “孤独” 是个浪漫而有神圣的字眼。那些死了还让人们记住名字的人，生前就常用 “孤独” 来概括自己的生存状态。

近几个月，公司进行人员调整，终于让我有机会实现多年梦想。整天我都不受干扰，想干啥就干啥，也就是说，我终于有时间 “孤独”了！第一个月，我坚持不说一句话、不见一个人，每天站在窗前欣赏风吹树叶 “哗啦、哗啦” 的响声，然后泡上一杯绿茶，光着脚坐在木地板上看书。

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

จากโรงเรียนมัธยมใน ฉัน รู้สึก "เหงา" เป็นคำที่โรแมนติก และพระเจ้า คนที่เสียชีวิตเพื่อให้คนจดจำชื่อ มักจะใช้ "คนเดียว" เพื่อสรุปสถานะของพวกเขาอยู่รอดในเดือนที่ผ่านมา บริษัททำให้บุคลากรปรับปรุง ฉันก็มีโอกาสฝันมาหลายปี วันโดยไม่หยุดชะงัก ใช้ และทำอะไรอยากทำอะไร ในคำอื่น ๆ ฉันสุดท้ายได้เวลา "คนเดียว" เดือนแรก ฉันไม่พูด ไม่แมน ยืนที่หน้าต่างเพื่อเพลิดเพลินกับลมใบทุกวัน "ความผิดพลาดและความล้มเหลว" เสียง และจากนั้น ทำให้ถ้วยของชาเขียว นั่งเท้าเปล่าบนชั้นไม้ที่อ่านหนังสือ

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

จากโรงเรียนมัธยมในผมรู้สึกว่า "เหงา" เป็นคำพูดที่โรแมนติกและศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ตายแล้วยังช่วยให้คนที่จะจำชื่อของบุคคลที่ช่วงชีวิตของเขาใช้ "เหงา" ที่จะสรุปการดำรงอยู่ของพวกเขา ในช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา บริษัท มีการเปลี่ยนแปลงบุคลากรในที่สุดผมก็มีโอกาสที่จะตระหนักถึงความฝันของหลายปี ตลอดทั้งวันฉันได้มองข้ามคิด Gansha เพียงแค่ทำมันนั่นคือจะบอกว่าในที่สุดผมก็มีเวลาที่จะ "เหงา" อีกครั้ง! เดือนแรกผมยืนยันที่จะไม่พูดอะไรสักคำ แต่ไม่ได้มีชายคนหนึ่งยืนอยู่ที่หน้าต่างเพลิดเพลินไปกับลมและใบ "ชนล้มเหลว" เสียงทุกวันแล้วถ้วยของชาเขียวนั่งอยู่บนการอ่านพื้นไม้เปลือย

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

จากโรงเรียนมัธยมในวันที่ผมรู้สึก " เหงา " เป็นโรแมนติกและมีคำศักดิ์สิทธิ์ ผู้ที่ตายแล้วยังทำให้คนจำคนชื่อเขาจะใช้ " เหงา " สรุปสภาพความเป็นอยู่ของตนเอง ฮ่าๆเกือบเดือนบริษัทดำเนินการปรับบุคลากรและในที่สุดก็ทำให้ผมมีโอกาสที่จะบรรลุฝันของหลายปี ทั้งวันผมไม่ได้รบกวนอยากทำอะไรก็จะทำและพูดได้ว่าในที่สุดฉันก็มีเวลา " เหงา " . เดือนแรกผมยืนยันไม่พูดและไม่เห็นใครสักคนยืนอยู่ริมหน้าต่างชื่นชมทุกวันลมพัดใบไม้ " ชนชน " เสียงแล้วแช่ในถ้วยของชาเขียวเปลือยเท้านั่งอ่านหนังสือบนพื้นไม้