ประวัติการกีฬาแห่งประเทศไทย
นับตั้งแต่กิจกรรมกีฬาสากลแพร่หลายได้ในประเทศไทยในรัชสมัยพระบาทสมเด็จพระ, Staff หัวรัชกาลเจ้าอยู่ที่มากีฬา 5 เป็นต้นสากลในประเทศไทยได้รับการส่งเสริมและเป็นของที่สนใจประชาชนอย่างกว้างขวางควบคู่กับกีฬากีฬาพื้นบ้านหรือ ประเพณีมาโดยตลอดในการดำเนินการกีฬาในสมัยนั้นได้รับพระราชกิจจานุเบกษาว่าด้วยการส่งเสริมกีฬาเพื่อเป็นแนวทางการสนับสนุนการจัดการแข่งขันกีฬาตลอดจนการรับผู้เชี่ยวชาญจากต่างประเทศมาช่วยเหลือการกีฬาในประเทศเป็นต้นทั้งนี้โดยมีกระทรวงธรรม ปัจจุบันในการเป็นกระทรวงศึกษาธิการหรือหน่วยงานที่ได้รับการมอบเป็นผู้ดำเนิน
กิจการในประเทศไทยได้กีฬากีฬาขยายตัวอย่างกว้างขวางชนิดต่างๆได้รับความนิยมจากประชาชนอย่างแพร่หลายการเข้าส่วนตัวกิจกรรมกีฬาระหว่างประเทศในงานของขณะนั้นเป็นการดำเนิน สมาคมกีฬายังไม่มีหน่วยงานกีฬาของรัฐให้การสนับสนุนเช่นเดียวกับนานาประเทศการเข้าแข่งขันของทีมกีฬาไทยจึงมักจะประสบปัญหาด้านงบประมาณและไม่บรรลุผลเท่าที่ควรด้วยเหตุนี้บุคคลในวงการกีฬาของไทยในสมัยนั้น ประกอบด้วยข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ที่สนใจในกีฬาและเป็นผู้ก่อตั้งสมาคมกีฬาต่างๆและคณะกรรมการโอลิมปิคแห่งประเทศไทยอาทิพระยาจินดารักษ์, หลวงสุขุมนัยประดิษฐ์, นายกัลย์อิศรเสนา ณ อยุธยา, นายโฉลกโกมารกุล ณ นคร, นายวิลาศ บุนนาค, นายสวัสดิ์เลขยายนนท์และนายกองวิสุทธารมณ์ได้มีความเห็นพ้องต้องกันว่าประเทศไทยควรมีหน่วยงานที่รับผิดชอบการกีฬาของประเทศในภาครัฐบาลขึ้นโดยเฉพาะเพื่อทำหน้าที่ด้านนโยบายของประเทศตลอดจน ดูแลและประสานงานส่งเสริมกีฬาระดับประชาชนให้ได้เล่นกีฬาประชาชนอย่างกว้างขวางและมีโอกาสคัดเลือกนักกีฬาที่มีศักยภาพแข่งขันไปกับต่างประเทศ
ในความพยายาม 2,507 ปีที่จะเป็นรัฐระดับก่อตั้งองค์การกีฬาผลสำเร็จเมื่อพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงพระกรุณา โปรดเกล้าฯให้ประกาศว่าโดยที่เป็นการสมควรจัดตั้งองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยอาศัยอำนาจตามความในมาตรา 3 แห่งพระราชบัญญัติว่าด้วยการจัดตั้งองค์การของรัฐบาล พ.ศ. 2496 จึงทรงพระกรุณาโปรดเกล้าฯให้ตราพระราชกฤษฎีกาจัดตั้งองค์การส่งเสริมกีฬาแห่ง ประเทศไทย พ.ศ. 2507 ขึ้นเมื่อวันที่ 12 กันยายน 2507 (เหตุผลในการประกาศใช้พระราชกฤษฎีกาฉบับนี้คือเนื่องจากกีฬาเป็นสิ่งสำคัญยิ่งอย่างหนึ่งในการสร้างเสริมพลังกายและกำลังใจของบุคคลให้รู้จักตัดสินใจในทางที่ถูกที่ควร เป็นการเผยแพร่ให้ประเทศไทยเป็นที่รู้จักแก่ชาวโลกและเป็นเหตุหนึ่งที่ก่อให้เกิดความผูกพันทางมิตรภาพระหว่างประเทศ แต่ขณะนี้กีฬาของประเทศไทยยังไม่ก้าวหน้าเท่าที่ควรจำเป็นต้องเร่งรีบส่งเสริมให้ทัดเทียมนานาประเทศโดยสนับสนุนให้เกิดความสนใจ นิยมกีฬาและขึ้นอีกมากยิ่งประการหนึ่งเกี่ยวกับกีฬาคณะกรรมการกระจัดกระจายต่าง ๆ กันยังไม่อยู่สะดวกงานและการดำเนินรวดเร็วตามต้องการสมควรต้องมีองค์การรับผิดชอบโดยเฉพาะขึ้นเพื่ออำนวยบริการแก่ประชาชน) โดยมีวัตถุประสงค์ดังนี้
1. ส่งเสริม กีฬา
2. ช่วยเหลือแนะนำและร่วมมือในการจัดและการกีฬาดำเนินสมัครเล่น
3. สำรวจและจัดสร้างบูรณะสถานสมัครเล่นกีฬาที่สำหรับ
ติดต่อสัมพันธ์กับ 4. กับองค์การหรือสมัครเล่นกีฬาสมาคมนอกทั้งในและราชอาณาจักร
5. ประกอบธุรกิจ อันเกี่ยวแก่หรืออื่น ๆ ของเพื่อประโยชน์สมัครเล่นกีฬา
6. เสนอแนะแก่หน่วยราชการรัฐบาลในเรื่องของหรือองค์การกีฬาเพื่อปรับปรุงแก้ไขหรือชักจูงเร่งเร้านิยมให้ความในเกิดกีฬาอย่างกว้างขวาง
7. เสาะแสวงหาและต่าง ๆ จากรวบรวมหลักฐาน หน่วยราชการองค์การของรัฐบาลหรือเอกชนเพื่อประโยชน์ในการจัดทำสถิติเกี่ยวแก่กีฬ่าสมัครเล่น
เพื่อการให้เป็นไปตามวัตถุประสงค์ดำเนินดังกล่าวให้อ. ส. ก. ท. มีการอำนาจรวมถึงสอดส่องและควบคุมการดำเนินกิจการ สมัครเล่นกีฬาเพื่อป้องกันมิให้เกิดอันตรายแก่ผู้เล่นกีฬาหรือเกิดความเป็นภัยหรือการตลาดแก่ประเทศชาติด้วย
องค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (อ.ส.ก.ท. ) เป็นหน่วยงานรัฐวิสาหกิจสังกัดสำนักนายกรัฐมนตรีบริหารงานโดยคณะกรรมการ องต์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยซึ่งคณะรัฐมนตรีเป็นผู้แต่งตั้งมีผู้อำนวยการอ. ส. ก. ท. ซึ่งคณะกรรมการแต่งตั้งเป็นกรรมการเพื่อดำเนินกิจการของ อ.ส.ก.ท. และมีหลวงสุขุมนัยประดิษฐเลขาธิการสำนักงาน ก.พ. ซึ่งก่อตั้งสมาคมเป็นผู้ได้รับการกีฬาแห่งหลายแต่งตั้งเป็นผู้อำนวยการกีฬาแห่งประเทศไทยองค์การส่งเสริม (อ.ส.ก.ท. ) คนแรก
องค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยในยุคแรกเริ่มหรือยังไม่มีสำนักงาน ที่ทำการของตนเองได้อาศัยสระว่ายน้ำโอลิมปิคของกรมพลศึกษาในบริเวณสถานกีฬาแห่งชาติเป็นที่ทำการชั่วคราวตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2507-9 มีนาคม 2511 เป็นเวลานานถึง 4 ปีก่อนจะย้ายไปอยู่ที่สำนักงานแห่งใหม่ที่สนามกีฬา หัวหมาก
แม้ว่าองค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทยจะยังไม่มีอาคารที่ทำการถาวร แต่ไม่เป็นอุปสรรคในการปฏิบัติภารกิจเพื่อสนองนโยบายรัฐของการกีฬาโดยได้รับผิดชอบในด้านกีฬาและกิจการของชาติตามขอบเขตวัตถุประสงค์ทั้งในระดับประเทศและระหว่างประเทศในส่วน กีฬาระหว่างประเทศภารกิจแรกที่อ. ส. ก. ท. ได้รับมอบหมายจากรัฐบาลในสมัยนั้นคือเป็นสำนักเลขาธิการคณะกรรมการจัดการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 5 ปีที่ในประเทศไทยเป็นเจ้าภาพ 2509
ภายหลังการแข่งขันเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 5 ใน ปี 2509 สิ้นสุดลงคณะรัฐมนตรีในการประชุมเมื่อวันที่ 7 กุมภาพันธ์ 2510 ได้รับทราบสรุปรายงานการแข่งขันกีฬาเอเชี่ยนเกมส์ครั้งที่ 5 และมีมติมอบสถานกีฬาและที่ดินในบริเวณสถานกีฬาหัวหมากทั้งหมดซึ่งมีพื้นที่รวม 265.452 ไร่ให้อส. . ก. ท. เป็นผู้ดูแลรักษาและเมื่อได้รับมอบหมายให้ดูแลสถานกีฬาดังกล่าวอ. ส. ก. ท. ยังต้องจัดซื้อที่ดินที่มีปัญหาติดค้างมาจากการเว ณ คืนที่ 1 แปลงซึ่งเป็นพื้นที่ ดินที่อยู่ในเขตกีฬาด้านหน้ามีเนื้อที่จำนวน 4 ไร่ 96 ตารางวา (ด้วยเงินงบประมาณประจำปี 2511 จำนวน 280,000 บาท) สถานพื้นที่รวมกีฬาหัวหมากจึงมีจำนวนประมาณทั้งสิ้นเป็นมา 270 ไร่ตั้งแต่นั้น
องค์การส่งเสริมกีฬาแห่งประเทศไทย (อ ส.ก.ท. ) จึงได้ย้ายที่ทำการชั่วคราวจากอาคารสระว่ายน้ำโอลิมปิคในกรีฑาสถานแห่งชาติมาตั้งสำนักงานที่อินดอร์สเตเดี้ยมสนามกีฬาหัวหมากตั้งแต่วันที่ 10 มีนาคม 2511 และเนื่องจากมีความจ
การแปล กรุณารอสักครู่..
