本文运用对比分析方法对汉泰语气词“啊”、“吧”、“吗”、“嘛”、“呢”

本文运用对比分析方法对汉泰语气词“啊”、“吧”、“吗”、“嘛”、“呢”作了对比，从语气词语气意义的角度进行了考察。然后对52名在泰国学习汉语的大学生进行了问卷调查，并对调查的结果进行了偏误分析。最后，用中介语理论对学生的偏误进行了解释。得出以下的结论： (1)通过对比分析可以看出，汉泰语气词的语气意义并不完全相同，有的是相对应的，有的是不对应的，有的是相似的。 (2)泰国学生在习得汉语语气词过程中出现的语言偏误，不仅符合对比分析理论，也符合中介语理论。 (3)问卷调查结果显示：对泰国学生而言，语气词“嘛”的习得情况较好，而语气词“啊”、“吧”、“吗”、“呢”的习得情况不太好。因此，本文对以泰语为母语的学生学习汉语语气词的习得规律作了更进一步的深入研究。

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ในเอกสารนี้ ผ่านการวิเคราะห์เปรียบเทียบในอนุภาคแบบโมดอลใน cognates ไทย "Ah", "", "", "", "" แตกต่างจากเสียงแก๊สศึกษาความหมายของคำ แล้ว ถึง 52 ประเทศดำเนินการสำรวจแบบสอบถามของนักเรียนที่เรียนภาษาจีนและการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดผลลัพธ์แบบสำรวจ สุดท้าย interlanguage ทฤษฎีอธิบายข้อผิดพลาดของนักเรียน มาสรุปต่อไปนี้: วิเคราะห์เปรียบเทียบ (1) สามารถมองเห็น ความหมายเสียงไทย cognates ของโมดอลจะไม่ตรงเหมือนกัน ที่ตรงไป ตรงไป เหมือน (2) นักเรียนไทยซื้อของภาษาจีนแบบโมดอลอคติ ในกระบวนการ ไม่เฉพาะ ในทางทฤษฎีการวิเคราะห์เปรียบเทียบ นอกจากนี้ยังสอดคล้องกับทฤษฎีของ interlanguage (3) แสดงผลสำรวจความคิดเห็น: นักเรียนไทย อารมณ์คำ "ดี" เรียนดี เสียง และคำ "", "", "", "" ซื้อไม่ดี ดังนั้น บทความนี้ในไทยพูดนักเรียนจีนมาจนกฎสำหรับการศึกษารายละเอียดเพิ่มเติม

ผลลัพธ์ (ไทย) 2:

โดยใช้วิธีการวิเคราะห์เปรียบเทียบสำหรับจีนและไทย Modal "อา" "เรา" "มัน" "ดี" "มัน" ถูกนำมาเปรียบเทียบได้รับการศึกษาจากมุมของเสียงของคำในความหมายอากาศ จากนั้นเมื่อวันที่ 52 นักศึกษาเรียนรู้ภาษาจีนในประเทศไทยได้ทำการสำรวจและผลการสำรวจที่ดำเนินการวิเคราะห์ข้อผิดพลาดที่ สุดท้ายของนักเรียนข้ามภาษาอธิบายข้อผิดพลาด ข้อสรุปดังต่อไปนี้ (1) การวิเคราะห์สามารถมองเห็นได้โดยการเปรียบเทียบเสียงหมายถึงจีนและ Modal ไทยไม่เหมือนกันบางคนตามลําดับบางส่วนไม่ตรงบางที่คล้ายกัน ภาษา (2) นักศึกษาไทยที่ปรากฏอยู่ในขั้นตอนการได้มาของอคติ Modal จีนไม่เพียง แต่สอดคล้องกับทฤษฎีของการวิเคราะห์เปรียบเทียบในทฤษฎีเส้นข้ามภาษา (3) ผลการสำรวจแสดงให้เห็นนักเรียนไทยเสียงของคำว่า "สิ่งที่" การได้มาจะดีกว่า แต่เสียงของคำว่า "อา", "สิทธิ", "สิทธิ", "มัน" ได้มาซึ่งไม่น่า ดี ดังนั้นบทความนี้กับนักเรียนพูดภาษาไทยการเรียนรู้กฎหมายจีน Modal ได้มาซึ่งต่อไปในเชิงลึกทำการศึกษา

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

งานวิจัยนี้ใช้วิธีการวิเคราะห์เปรียบเทียบกับคำไทย " โอ้ " , " " , " " , " " , " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " " และเปรียบเทียบเสียงจากคำที่ความหมายของมุมการตรวจสอบ แล้ว 52 คนเรียนภาษาจีนของนักศึกษาไทยในการสอบสวนและตรวจสอบข้อผิดพลาดการวิเคราะห์ผลการทดลอง สุดท้ายกับทฤษฎีนานาชาติสำหรับนักเรียนที่พลาดการอธิบาย สรุปได้ว่า ( 1 ) จากการเปรียบเทียบจะเห็นได้ว่าเสียงไทยคำที่มีความหมายเหมือนกันและบางอย่างที่สอดคล้องและไม่สอดคล้องมีบางอย่างเหมือนกัน( นักเรียนไทยในจีน 2 ) เรียนรู้คำกริยาที่ปรากฏในหลักสูตรภาษาผิดพลาดไม่เพียงสอดคล้องกับการวิเคราะห์เปรียบเทียบทฤษฎีและยังสอดคล้องกับทฤษฎีนานาชาติ ( 3 ) ผลการสำรวจพบว่านักเรียนไทยเป็นคำที่ " ทำ " สถานการณ์ของการซื้อที่ดีกว่าในขณะที่คำกริยา " อา. . . . " " " " " " " " " " " " " " " " " " " ? ? " , , " " " " " " " เรียนรู้สถานการณ์ไม่ดี ดังนั้นวิทยานิพนธ์ฉบับนี้จึงใช้ภาษาไทยเป็นภาษาแม่ของนักเรียนที่เรียนภาษาจีนเรียนรู้คำกริยาสำหรับกฎของการศึกษาในเชิงลึกเพิ่มเติม