每年泰国佛历十二月十五日（阳历的11月某日）是泰国的水灯节。这个季节在

每年泰国佛历十二月十五日（阳历的11月某日）是泰国的水灯节。这个季节在泰国是旱季，相
当于北方的秋天，气温凉爽，月明星稀，是夜里放水灯的最好的日子。
相传水灯节已有700年的历史。它诞生于泰国中部的城镇素可泰。“素可泰”，在泰语中是“幸福的黎
明”的意思。关于素可泰与水灯节的关系，当地流传着几个美妙的传说。
传说在很久以前，素可泰有一位名叫“诺帕玛”的姑娘，长得非常秀丽，只是体弱多病，心里很是苦恼。有一天她正在菩提树下为自己的身体发愁，忽然佛祖释迦牟尼飘然而至。姑娘连忙跪拜佛祖，请求佛祖帮助她驱除病魔。佛祖告诉她，在佛历十二月的月圆之夜，将自己剪下来的碎指甲和头发，放在一个莲花形的灯座里，点上蜡烛，放到河里，就可以驱除病魔。到了这年的十二月的一个月圆之夜，姑娘按着佛祖队话做了，结果她的身体真的康复了。
此后，诺帕玛姑娘为了感谢佛组的恩赐，就在每年的十二月十五日夜里，用芭蕉叶制作一种莲花形的基座，插上蜡烛，放入河里，以此方式来表达对佛祖释迦牟尼的膜拜。后来，姑娘的举动让国王知道了，国王就决定每年十二月十五日夜里，在河里放水灯，来祈求佛祖保佑五谷丰登，诸事如意。并将这一天定为泰国的水灯节。据史料记载，每年的十二月十五日夜里的良辰吉日来到时，国王将王妃们制作成莲花状的水灯，点上蜡烛，放到河里，作为表达对佛陀、河神祭拜及谢恩的一种隆重仪式。
还有个传说说是在两千多年前，释迦牟尼在菩提树下修行时，有位少女给他送来一金盘食物。当时释迎牟尼暗中许了个愿：如能得道成佛，把金盘放到河里就漂浮在水面上。他接过金盘放到河面上，果然四平八稳地浮着。不久释迎牟尼就成了佛祖。
另一个传说更为离奇。传说在远古时，一对白乌鸦在河边树上筑巢，生下五个蛋。忽然有一天风暴袭来，鸦巢被吹落到河里。白乌鸦淹死了，五个鸦蛋却被河水冲走。后来这五个鸦蛋被孵化成人，他们立志要找到母亲。当他们的母亲——白乌鸦在天上得知此事后，就化作原形，飞到人间，告诉她的孩子们在每年12月的月圆的夜里，把香烛插在形如雀巢的盘中，浮在河上来表示对母亲的怀念。
这些传说的可靠性已难查考，不管是出于什么缘由，但无可辩驳的事实是水灯节的风俗已成为泰国富有传统韵味和充满诗情画意的民族节日。
在水灯节的这一天夜里，当皓月升空之时，人们都穿着华丽的泰式民族服装，怀着一颗虔诚的心，去参加放水灯的庆典。特别是一些窈窕淑女，迈着轻盈的脚步，到河边放水灯，更是婀娜多姿的一种风采。
水灯是用芭蕉叶折叠成莲花形状，呈圆形，周边有三角状突起，中间插着两支小蜡烛，一支香，还有一支火药捻制的“烟花捻”。点燃后，这支“烟花捻”火花四溅，毕毕剥剥，煞是好看。放水灯前要点燃小蜡烛，用以表示导向光明，心灵明澈的向往。这种取自自然的材料，美观而新鲜，还散发着芬芳的气息。据说前几年的水灯有用泡沫板防水纸做的，形状大小不一，更是五光十色。近年曼谷维护清洁局局长纳隆事光友布指示，要求用天然物质制作水灯，以便“协同维护河流、港渠的清洁”，防止环境受到污染。
在水灯节的这天夜里，各个城市一般都要举行水灯节盛会。在其发祥地素可泰府最为隆重。这里的盛会是在最具规模的玛哈泰寺前的护城河举行。素可泰府的水灯节为期三天，不仅规模盛大，而且还演出模拟性的历史情景，在现代科学的声、光、电的衬托下，气势磅礴，惟妙惟肖。其间，还要举行选美比赛、水灯比赛、灯笼比赛、烟花比赛等。盛会的高潮是放水灯。在银色月光的沐浴下，河面上波光粼粼，两岸的歌声、鼓乐声此起彼伏。花枝招展的少女，春风得意的小伙子点燃水灯的蜡烛，口中默念着许下的心愿，将水灯轻轻地放在水面上，凝望着水灯顺流漂去。
在水灯节期间，沿河两岸的小店播放着耳熟能详的水灯节情歌，出售拜神用的莲花和蜡烛，生意非常兴隆。还有一些食档专卖泰式传统美食，如炸鱼饼、烤蕃薯、干鱼松、辣豆、青菜和竹筒饭，全部盛在一个大盘子里，中间点燃一根蜡烛，吃起来很有气氛。

ผลลัพธ์ (ไทย) 1:

ปฏิทินของชาวพุทธไทยแต่ละปี 15 ธันวาคม (หนึ่งพฤศจิกายนวันในปฏิทินคริสต์ศักราช) ได้ของไทยวันลอยกระทงเทศกาล ฤดูกาลนี้ในประเทศไทยคือในฤดูแล้งในฤดูใบไม้ร่วงเหนือและอุณหภูมิเย็นสบาย สดใส ได้วันดีที่สุดของโคมไฟในเวลากลางคืน ตำนานมีว่า เทศกาลน้ำนี้มีประวัติศาสตร์ 700 ปี มันเกิดในประเทศไทยกลางเมืองสุโขทัย "สุโขทัย" ในภาษาไทยคือ "หลี่มีความสุข"หมายความว่า ในความสัมพันธ์ระหว่างสุโขทัยวันลอยกระทงเทศกาล นิทานมหัศจรรย์ต่าง ๆ ที่หมุนเวียนไปในท้องถิ่น ตำนานนาน สุโขทัยเป็นหนึ่งสาวที่เรียกว่า "อาร์โนลด์พาล์ม่าร์" ลักษณะที่สวยงามมากแต่ sickly และไม่เป็นทุกข์มาก วันหนึ่งเธอภายใต้โพธิกังวลเกี่ยวกับร่างกายของเขา ก็ลอยไปพระ เด็กหญิง hastened สยบพระและพระถูกถามเพื่อช่วยรักษาโรคของเธอ พระบอกเธอว่า ในปฏิทินของชาวพุทธ ธันวาคมคืนพระจันทร์เต็มดวง เล็บหัก และผมจะถูกตัด และวางอยู่บนดอกบัวรูปโคมไฟ เทียน ใส่ลงไปในแม่น้ำ คุณสามารถรักษาโรค ธันวาคมปีนี้คืนพระจันทร์เต็มดวง สาวตามคำของพระพุทธเจ้า และร่างกายของเธอดีจริง ๆ ตั้งแต่นั้น สาวอาร์โนลด์พาล์ม่าร์ในความกตัญญูสำหรับของขวัญของพระพุทธศาสนา กลุ่ม ในคืนวันที่ 15 ธันวาคมของทุกปี ฐานบัวรูปที่ทำ ด้วยใบกล้วย และวางเทียนไว้ในแม่น้ำ เป็นวิธีการเกียรติ Sakyamuni worshipers ภายหลัง หญิงสาวย้ายไปให้กษัตริย์ทราบ กษัตริย์ตัดสินใจที่จะตั้งปีคืน 15 ธันวาคม ในแม่น้ำ สวดพระอวยพร และคูณในทุกสิ่ง และนี้ เป็นของไทยวันลอยกระทงเทศกาล ตามระเบียนประวัติศาสตร์ มาฤกษ์ยามค่ำคืนของวันที่ 15 ธันวาคมของทุกปี เจ้าหญิงของกษัตริย์เป็นโคมเป็นรูปบัว เทียน ใส่ลงไปในแม่น้ำ เป็นการพระ เขาพิธีนมัสการพระเจ้า และให้ขอบคุณแกรนด์ นอกจากนี้ยัง มีคำอธิบายที่มากกว่า 2000 ปีที่ผ่านมา เมื่อพระใต้ปลูกต้นไม้โพธิ สาวส่งเขาจานทองอาหาร ปราชญ์รุ่นแอบทำความปรารถนาในขณะนั้น: ถ้าคุณสามารถบรรลุพระพุทธเจ้า ใส่ทองลงในแม่น้ำลอยน้ำ เขาเอาทองในแม่น้ำ ถูกปลอดภัย afloat ปราชญ์ออกเร็ว ๆ นี้ กลายเป็น พระพุทธเจ้า ตำนานอื่นเป็นพิเศษ ในตำนานโบราณ คู่สีขาวตรงรังต้นไม้ตามแม่ ให้กำเนิดไข่ห้า จู่ ๆ วันหนึ่งพายุหลง รังของอีกาที่เป่าเข้าไปในแม่น้ำ ขันขาวจม ไข่ตรงห้าถูกล้างไปตามแม่น้ำ ภายหลังไข่ตรงห้าเหล่านี้เป็น incubating ผู้ใหญ่ พวกเขากำหนดหาแม่ของเธอ เมื่อแม่ - Ravens ขาวทราบเรื่องนี้ในฟากฟ้า เป็นต้นแบบ บินลงมายังโลก บอกลูกในคืนพระจันทร์เต็มดวงของเดือนธันวาคมทุกปี ในดิสก์ที่จะใส่ในแบบฟอร์ม เช่น Nestle หอมเทียน น้ำในแม่น้ำแทนความคิดถึงแม่ 这些传说的可靠性已难查考，不管是出于什么缘由，但无可辩驳的事实是水灯节的风俗已成为泰国富有传统韵味和充满诗情画意的民族节日。 在水灯节的这一天夜里，当皓月升空之时，人们都穿着华丽的泰式民族服装，怀着一颗虔诚的心，去参加放水灯的庆典。特别是一些窈窕淑女，迈着轻盈的脚步，到河边放水灯，更是婀娜多姿的一种风采。 水灯是用芭蕉叶折叠成莲花形状，呈圆形，周边有三角状突起，中间插着两支小蜡烛，一支香，还有一支火药捻制的“烟花捻”。点燃后，这支“烟花捻”火花四溅，毕毕剥剥，煞是好看。放水灯前要点燃小蜡烛，用以表示导向光明，心灵明澈的向往。这种取自自然的材料，美观而新鲜，还散发着芬芳的气息。据说前几年的水灯有用泡沫板防水纸做的，形状大小不一，更是五光十色。近年曼谷维护清洁局局长纳隆事光友布指示，要求用天然物质制作水灯，以便“协同维护河流、港渠的清洁”，防止环境受到污染。 ในลอยกระทงเทศกาลคืน เมืองมีจัดลอยกระทงเทศกาล ในแหล่งกำเนิดของสุโขทัยเป็นแกรนด์มากที่สุด กิจกรรมจัดขึ้นที่คูเมืองหน้าวัดวัดมหาธาตุที่ใหญ่ที่สุด สุโขทัยลอยกระทงเทศกาลเป็นเวลาสามวัน ไม่มาก แต่ยัง ทำการจำลองสถานการณ์ทางประวัติศาสตร์ ในฉากหลังของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่ของเสียง ไฟ ไฟฟ้า งดงาม สดใส ในขณะเดียวกัน นอกจากนี้ยัง จัดประกวดเกมความงาม น้ำไฟ ประกวดโคมไฟ ดอกไม้ไฟแข่งขัน จุดสุดยอดของเหตุการณ์เป็นน้ำ ภายใต้การเงินมูนบาท ประกายน้ำ ร้องเพลง ตั้งแต่ทั้งสองด้านของเสียง สาวสวย ชนิดของลาดใต้แสงเทียนโคมไฟ ทำสมาธิทำความปรารถนา หลอดน้ำเบา ๆ ในน้ำ ชมโคมลอยไป ช่วงลอยกระทงเทศกาล ลอยกระทงเทศกาลของร้านทั้งสองข้างแม่น้ำเล่นเพลงคุ้นเคย ขายบูชาด้วยดอกบัวเทียน ธุรกิจจะเฟื่องฟู นอกจากนี้ยังมีอาหารที่ร้านนริศบริการอาหารไทยดั้งเดิม เช่นปลาสับแห้ง ยำปลาเค้ก อบมันเทศ ถั่ว กะหล่ำปลี และข้าว ไม้ไผ่ทั้งหมดเสิร์ฟบนจานใหญ่ ใต้แสงเทียนในกลาง ลิ้มรสบรรยากาศ

ผลลัพธ์ (ไทย) 3:

ไทยพุทธปฏิทินปีวันที่ 15 ธันวาคม ( ปฏิทินเกรกอเรียนพฤศจิกายนวันหนึ่งเป็นเทศกาลโคมไฟไทย ) น้ำ ฤดูกาลนี้ในไทยเป็นฤดูแล้งระยะในขณะที่ในฤดูใบไม้ร่วงของอุณหภูมิเย็นในคืนเดือนหงายคือน้ำโคมไฟที่ดีที่สุดของวัน * ว่ากันว่าน้ำ 700 ปีมีเทศกาลโคมไฟ มันเกิดในไทยภาคกลางของเมืองสุโขทัย " สุโขทัย " ในไทยเป็น " ความสุขของเลบานอน - หมิง " หมายถึง เกี่ยวกับความสัมพันธ์ของสุโขทัยกับน้ำเทศกาลโคมไฟและเป็นที่นิยมในท้องถิ่นหลายตำนานยอดเยี่ยม * ตำนานนานมาแล้วสุโขทัยมีหนึ่งเรียกว่า " 诺帕玛 " หญิงสาวหน้าตาสวยงามมากแต่ขี้โรคจิตใจก็เป็นทุกข์วันนึงเธอกำลังใต้ต้นโพธิ์สำหรับร่างกายของพวกเขากังวลก็พระพุทธเจ้าศากยมุนีลอย หญิงสาวรีบกราบไหว้พระพุทธเจ้าและขอให้พระพุทธเจ้าช่วยเธอขับไล่โรค พระพุทธเจ้าพุทธปฏิทินธันวาคมบอกเธอในคืนที่พระจันทร์เต็มดวงจะตัดเศษเล็บและเส้นผมใส่เป็นรูปดอกบัวในโคมไฟและเทียนลงในแม่น้ำและสามารถขับไล่โรค ถึงปีนี้ธันวาคมพระจันทร์เต็มดวงเดือนหญิงสาวตามคำพระพุทธเจ้าทีมได้ผลร่างกายของเธอก็หาย * หลังจากนั้น诺帕玛สาวเพื่อขอบคุณพระพุทธเจ้าของขวัญของกลุ่มในแต่ละปีวันที่ 15 ธันวาคมตอนกลางคืนผลิตโดยใช้ใบตองเป็นรูปดอกบัวฐานเสียบเทียนลงในแม่น้ำเพื่อแสดงออกต่อพระพุทธเจ้าศากยมุนีนมัสการ ต่อมาสาวทำให้กษัตริย์รู้ว่าพระราชาจึงตัดสินใจวันที่ 15 ธันวาคมปีคืนโคมไฟลอยในแม่น้ำเพื่อขอให้พระพุทธเจ้าคุ้มครองผลผลิตทุกอย่างจะผ่านไปด้วยดี และจะเป็นวันที่น้ำเทศกาลโคมไฟไทย ตามบันทึกประวัติศาสตร์ของทุกปีในคืนธันวาคม 15 โชคดีจะมาถึงกษัตริย์ราชินีทำให้เป็นรูปร่างคล้ายดอกบัวน้ำไฟและเทียนลงแม่น้ำเป็นแม่น้ำพระเจ้านมัสการและการแสดงออกต่อพระพุทธเจ้าและเชนเป็นพิธี *มีตำนานกล่าวว่าอยู่ที่ 2000 กว่าปีมาแล้วพระพุทธเจ้าใต้ต้นโพธิ์ในการปฏิบัติเมื่อมีสาวให้เขาส่งจานอาหาร เมื่อการต้อนรับมุนีแอบหวังว่าถ้าสามารถ dedao พระพุทธเจ้าวางจานลงแม่น้ำจะลอยในน้ำ เขาเอาแผ่นทองลงบนแม่น้ำลอยจริงๆแน่นอน ไม่นานการต้อนรับมุนีจะเป็นพระพุทธเจ้า - อีกหนึ่งตำนานลึกลับมากขึ้น โบราณในตำนานเมื่ออีกาเป็นบทสนทนาในแม่น้ำต้นไม้ทำรังคลอด 5 ไข่ วันหนึ่งพายุและรังอีกาถูกพัดลงแม่น้ำ อีกาสีขาวจมน้ำ 5 ไข่กาแต่ถูกน้ำชะล้าง หลังจากนั้นห้ากาฟักไข่ผู้ใหญ่พวกเขาตั้งใจจะหาแม่ เมื่อแม่ของพวกเขา - อีกาสีขาวในท้องฟ้าหลังจากการเรียนรู้นี้กลายเป็นต้นแบบบินมาและบอกลูกของเธอในแต่ละปีธันวาคมพระจันทร์เต็มดวงคืนเอาธูปเทียนใส่ในรูปของเนสท์เล่จานลอยในแม่น้ำขึ้นมาแสดงความทรงจำของแม่ * ตำนานเหล่านี้ความน่าเชื่อถือได้ยากที่จะค้นหาไม่ว่าด้วยเหตุผลอะไรแต่ข้อเท็จจริงได้น้ำได้กลายเป็นเทศกาลโคมไฟเป็นประเพณีแบบไทยรวยเสน่ห์และเต็มไปด้วยบทกวีเทศกาลพื้นบ้าน น้ำในเทศกาลโคมไฟนี้คืนหนึ่งเมื่อดวงจันทร์ลอยเมื่อคนสวมใส่เสื้อผ้าหรูหราของประเทศไทยด้วยความกตัญญูของหัวใจไปร่วมงานฉลองน้ำโคมไฟ โดยเฉพาะสุภาพสตรีที่เดินด้วยฝีเท้าเบาไปที่แม่น้ำน้ำโคมไฟยังเป็นชนิดของเสน่ห์สง่างาม * น้ำไฟโดยใช้ใบตองพับเป็นดอกบัวรูปร่างกลมรอบมีรูปสามเหลี่ยมโหนกกลางใส่สองเทียนขนาดเล็กเป็น支香อีกคนทำดินปืนบิด " ดอกไม้ไฟบิด " หลังจากจุดนี้ " ดอกไม้ไฟบิด " ประกายไฟบิน毕毕ปอกมีเสน่ห์จริงๆ น้ำโคมไฟขนาดเล็กก่อนที่จะจุดเทียนใช้แสดงทิศทางแสงใสหัวใจโหยหา ชนิดของวัสดุจากธรรมชาติที่สวยงามและสดชื่นยังให้กลิ่นที่หอมว่ากันว่าปีแรกของโคมไฟน้ำฟองประโยชน์แผ่นกระดาษกันน้ำทำรูปร่างขนาดและสีสันมากขึ้นเป็น ล่าสุดผู้อำนวยการสำนักรักษาความสะอาดกรุงเทพมหานคร纳隆 Guang ผ้าเรื่องคำสั่งให้ใช้วัสดุธรรมชาติโคมไฟน้ำ " ทำเพื่อร่วมกันรักษาแม่น้ำและท่าเรือคลองสะอาด " เพื่อป้องกันการปนเปื้อนสิ่งแวดล้อม ในคืนนั้นน้ำงานเทศกาลโคมไฟเมืองต่างๆโดยทั่วไปจะต้องจัดงานเทศกาลโคมไฟเทศกาลน้ำ ที่สุโขทัยบ้านเกิดทำเนียบยิ่งใหญ่ นี่เป็นเหตุการณ์ที่ใหญ่ที่สุดที่จัดขึ้นก่อน玛哈泰วัดคูเมือง สุโขทัยแมนชั่นน้ำสามวันของเทศกาลโคมไฟไม่ใหญ่และยังแสดงสถานการณ์จำลองประวัติศาสตร์ในเสียงของวิทยาศาสตร์สมัยใหม่และไฟฟ้าแสงของฉากหลังงดงามเหมือนจริง ขณะเดียวกันยังจัดประกวดโคมไฟและโคมไฟน้ำเกมเกมและเกมเช่นดอกไม้ไฟ เหตุการณ์จุดสุดยอดน้ำโคมไฟ ในแสงจันทร์สีเงินอาบในแม่น้ำภายใต้ประกายของทั้งสองฝ่ายและกลองที่ได้ยินเสียงเพลง ดอกไม้กับความสำเร็จของหนุ่มสาวจุดเทียนโคมไฟน้ำในปากย้ำปรารถนาจะน้ำไฟเบาๆลงบนผิวน้ำจ้องมองน้ำโคมไฟลอยล่อง ในช่วงเทศกาลโคมไฟริมฝั่งน้ำและเล่นน้ำร้านคุ้นเคยเทศกาลโคมไฟดอกบัวขายด้วยเพลงนมัสการและเทียนจะเฟื่องฟูมีไฟล์ไทยอาหารขายอาหารแบบดั้งเดิมเช่นขนมปังอบมันเทศและปลาแห้งปลาหยองและเผ็ดถั่วและผักและข้าวไม้ไผ่ทั้งหมดเสิร์ฟใส่จานใหญ่ตรงกลางจุดเทียนกินเป็นบรรยากาศ