ที่สร้างขึ้นในวัดพระศรีรัตนศาสดารามปี 1782 มีประวัติศาสตร์ที่ยาวนานและเป็นอาคารที่กรุงเทพมหานครประเทศไทยลงเมื่อพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชและเป็นครั้งแรกที่ไทยจะย้ายเมืองหลวงไปที่กรุงเทพเขาจะวัดพระศรีรัตนศาสดารามเป็นกษัตริย์ผู้ปกครองประเทศของสถานที่ทางศาสนา และในที่นี่สำหรับจัดพิธีสำคัญของราชวงศ์ เป็นวัดที่ไม่มีพระสงฆ์อาศัยอยู่
ในพระบรมมหาราชวังวัดพระหยกซึ่งปัจจุบันมีสัดส่วนประมาณ 1 ใน 4 ของพื้นที่ในภาคตะวันออกเฉียงเหนือของพระราชวัง , วัดพระศรีรัตนศาสดาราม ( พประดิษฐานระพุทธมหามณีรัตนปฏค้นหามากร / พระแก้วมรกต ) , ประกอบด้วยทั้งหมดของผนังสีเขียวแกะสลักหยก ( Jade ) สูงประมาณ 66 เซนติเมตรกว้างประมาณ 48 เซนติเมตรโดยกระจกป้องกันหลายยี่ห้อมีฐานค่อนข้างสูง กล่าวกันว่าพระพุทธรูปอยู่ในหลายๆสถานที่แรกที่ฝังไว้ในเจดีย์วัดพระแก้วเชียงรายในเวลาต่อมาพระเจดีย์ถูกฟ้าผ่าพังก็พบว่ารูปปั้นนี้มีรูปปั้นของพระศรีรัตนศาสดารามในเวลาที่ถูกปกคลุมด้วยน้ำและติดทอง , ได้พระพุทธรูปที่สร้างขึ้นในวัดของพระพุทธเจ้าในเวลาต่อมาส่วนที่ตาฝาซีเมนต์แตกพบว่าพระพุทธรูปมรกตกลับกลายเป็นชิ้นส่วนที่ผลิตแล้วจะถึงวัดพระศรีรัตนศาสดารามอยู่ลำปางไปเชียงใหม่แล้วนั้นก็มีตำนานอื่นถูกพายุไต้ฝุ่นม้วนม้วน , รูปปั้นพระศรีรัตนศาสดารามในกัมพูชานั้นในกรณีใดๆ ,เป็นพระพุทธรูปอยู่ในวัดพระศรีรัตนศาสดารามในเวียงจันทน์ , ลาวในที่สุดต่อมาธนบุรีสมเด็จพระเจ้าตากสินมหาราชโปรดไปจากเวียงจันทน์ไปยังวัดพระศรีรัตนศาสดาราม ( วสมเด็จพระเจ้าตากสินัดอรุณราชวราราม ) ประดิษฐานอยู่และต่อมาพระบาทสมเด็จพระพุทธยอดฟ้าจุฬาโลกมหาราชไทยจะย้ายเมืองหลวงไปที่กรุงเทพฯต่อมาคือพระศรีรัตนศาสดารามวัดพระแก้วโปรดไปประดิษฐานในพระราชวัง
พระศรีรัตนศาสดารามปีละสามฤดูมงกุฎเป็นพระศรีรัตนศาสดารามโดยเปลี่ยนจากศาลที่เคารพ เคารพในพระพุทธเจ้าพระศรีรัตนศาสดารามในอีกรอบ 4 วัดหลักและผนังเป็นภาพพุทธประวัติโดยเรื่องราวเกิดสู่นิพพาน ของพระวิหารประดิษฐานพระศรีรัตนศาสดาราม 40 มีทั้งหมดสี่ชนิดมุมเสาและบนระเบียงที่ตกแต่งด้วย 112 รูปปั้นสีทองของนกที่มีรูปร่างมนุษย์
การแปล กรุณารอสักครู่..